ต้องมีเอกสารประกอบดังนี้ 1. ต้นฉบับใบขนสินค้าขาเข้า (กศก. 99/1) พร้อมสำเนา 1 ฉบับ

---

2. บัญชีราคาสินค้า (Invoice)

---

3. บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List)

---

4. ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading หรือ Air Waybill)
4.1 (Bill of Lading)


4.2 (Air Waybill)

---

5. ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)
6. ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า (License)
7. ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) กรณีขอลดอัตราอากร
8. เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสารแสดงส่วนผสม, คุณลักษณะและการใช้งานของสินค้า, Material Safety Data Sheet, Product catalog เป็นต้น

เอกสารประกอบที่ต้องใช้เพิ่มเติม ได้แก่
พิมพ์เขียว (Blue Print) แบบแปลน แบบพิมพ์, หรือเอกสารประกอบอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเพื่อทำใบขนสินค้าหลายเที่ยวเรือ

ต้องมีเอกสารประกอบที่ใช้เพิ่มเติม ได้แก่
หนังสืออนุมัติให้ยกเว้นหรือลดหย่อนอากรจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

เอกสารประกอบที่ต้องใช้เพิ่มเติม ได้แก่
1. แบบ กนอ.02-1 กรณีสินค้านำเข้าเป็นวัตถุดิบ
2. แบบ กนอ.02-1 และ กนอ.101 กรณีสินค้านำเข้าเป็นเครื่องจักร
อุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้ต้องใช้ในการผลิตสินค้า หรือการค้าเพื่อส่งออก

เมื่อสินค้ามาถึงท่าหรือสถานที่นำเข้า ผู้นำเข้าหรือตัวแทนต้องส่งข้อมูลใบขนสินค้าไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรด้วยระบบ VAN และระบบอินเตอร์เน็ต

การตรวจสอบพิสูจน์การสำแดงข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ผู้นำเข้ายื่นมา ในขั้นตอนนี้ระบบของกรมศุลกากรจะแยกใบขนสินค้า เป็น 2 ประเภท คือ ใบขนฯให้เปิดตรวจ (Red Line) และ ใบขนฯยกเว้นการตรวจ (Green Line) ผู้นำเข้าสามารถดำเนินการชำระภาษีอากรที่เกี่ยวข้องได้ทันที หากเป็นใบขนฯยกเว้นการตรวจ

ชำระภาษีอากรและการวางประกันที่เกี่ยวข้อง ในปัจจุบันสามารถชำระได้ 3 วิธี คือ
- การชำระด้วยตนเอง
- การชำระเงินในระบบ e-Payment
- ชำระเงินในระบบ e-Bill Payment

ผู้นำเข้ายื่นใบขนสินค้าพร้อมใบเสร็จรับเงิน เอกสาร Deliver Order (D/O) ที่คลังสินค้าเพื่อการตรวจปล่อยสินค้าจากศุลกากรและขนสินค้าออกจากท่าเรือที่นำเข้า